ตอนที่ 6 น้องเป็นคนขี้อิจฉาและขี้หึงด้วย
ตอนที่ 6
น้องเป็นคนขี้อิจฉาและขี้หึงด้วย
"โมน่า" สาวน้อยวัยใกล้จบปริญญาตรี โอดครวญด้วยความน้อยอกน้อยใจ
โมน่า “น้องเป็นคนไม่สวย แต่ก็ไม่ใช่ขี้เหร่ ต้องเรียกว่าธรรมดาๆ พอไปวัดตอนสายๆ ได้ ก็ไม่ทราบว่าโชคดีหรือโชคร้ายได้คู่รักเป็นหนุ่มรูปงาม เรารักใคร่ชอบพอกันมาตั้งแต่สมัยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยใหม่ๆ เขาเรียนวิศวะ น้องเรียนบัญชี ตอนนี้เราเรียนใกล้จบแล้ว ก็คิดว่าจบแล้วจะแต่งงานกันค่ะ…ปัญหาของน้องก็คือ เนื่องจากเขาเป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีมากและเป็นคนมีอัธยาศัยยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคนเสมอ เขาจึงเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ ผู้ชายนั้นน้องไม่ว่า แต่ผู้หญิงนี่สิค่ะ!…”
ฮอทไลน์ "น้องกำลังเล่าว่า แฟนของเป็นคนหน้าตาท่าทางดีมาก น้องโชคดี แล้วยังไงอีกค่ะ"
โมน่า “คือ…เวลาที่เห็นเขาพูดกับใครแล้ว น้องรู้สึกทุกข์ใจมาก โดยเฉพาะที่สังเกตดูเขาชอบมองผู้หญิงสวยๆ บางทีเดินไปซื้อของด้วยกัน เขามองเสียจนเหลียวหลัง น้องก็อดโกรธตะบึงตะบอนเอากับเขา เขาก็ปลอบว่านั่นเป็นเพียงวิสัยของผู้ชาย สำหรับเขาแล้ว ความฉลาดของผู้หญิงและคุณสมบัติอื่นๆ มาก่อนความสวย เขาชมและยกย่องน้องมากที่สามารถพูดจากับเขาและเพื่อนๆ ได้โดยไม่มีใครรำคาญ…”
ฮอทไลน์ "แฟนของน้องเขาก็ชื่นชมน้อง แล้วน้องมองเขายังไงค่ะ"
โมน่า "…เขาเป็นคนที่เก่งในด้านการเรียนและออกสังคม น้องเองก็เชื่อใจและไว้วางใจเขามาก แต่ก็ไม่ทราบเป็นอย่างไรพอเห็นเขามองผู้หญิงสาวๆ แล้วน้องก็โกรธเขามาก ทั้งๆ ที่เป็นเช่นนั้นเลย ไม่อยากเชื่อจะได้ชื่อว่าเป็นคนขี้หึง เพราะเคยตกลงพูดจากันอย่างเปิดทางให้ ไม่ต้องการเป็นมารความสุขของเขา แต่ทำไมพอเห็นเขามองใคร ก็กลัวและหวั่นไหวไปหมด อย่างนี้เรียกว่า เป็นคนขี้หึงและขี้อิจฉาค่ะ แล้วทำอย่างไร จึงจะหายหรือจะกำจัดความรู้สึกที่ไม่ดีนี้ไปได้ น้องไม่สบายใจเลยค่ะ พี่ช่วยแนะนำน้องด้วย…”
ฮอทไลน์ "น้องอยากให้พี่แนะนำเรื่องแฟน เพราะเรารู้สึกว่าเขามีดีมาก และเราก็หึงหวงเขาเหลือเกิน"
คำปรับทุกข์ของหนูโมน่าคนนี้ ความจริงเมื่อสมัยผู้เขียนยังเยาว์วัยก็มีความรู้อย่างนี้เช่นกัน และเชื่อว่าเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับคนทุกรุ่นทุกวัย หรือจนถึงผู้ที่มีครอบครัว คือ “เขา” เป็นของเราจริงๆ แล้ว แต่ความหวั่นไหวไม่เคยหายไปจากใจ ไม่อยากเรียกตัวเองว่าคนขี้หึงแล้วก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่า “คนขี้อิจฉา” แต่พิจารณาแล้วก็คงหนีคำสองคำนี้ไม่พัน ฉะนั้นก็อย่าไปเลี่ยงหลบเลย สองทำใจกล้ายอมรับตัวเองว่า “ฉันเป็นคนขี้อิจฉาและขี้หึงด้วย” เพราะมันไม่ได้มีความผิดปกติอะไรในสองคำนี้ มันเป็นเพียงความรู้สึกและอารมณ์ของปุถุชนหนึ่งเท่านั้นเอง ในฐานะที่เป็นพี่และเป็นนักจิตวิทยา จึงได้สอบถามและพูดคุยว่า
ฮอทไลน์ "ทีนี้เราลองมาพิจารณาตัวอย่างสิว่า ทำไมเราจึงรู้สึกหวั่นไหวหวาดผวาหรือเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเขามองผู้หญิงสวย เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่เรารู้สึกมีปมด้อยที่เกิดมาไม่สวยและก็เป็นธรรมดาที่ผู้หญิงทุกคนอยากเกิดมาสวย คือตัวเราก็ชอบความสวย อยากจะเห็นตนเองเป็นคนสวยสำหรับคนที่เรารัก อยากจะให้เขามองเราจนเหลียวหลังด้วยกันได้ แต่เป็นเพราะเรายอมรับกับตัวเราว่าเราไม่สวย ถึงจะไม่ขี้เหร่ แต่อย่างน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคนสวยๆ แล้ว เราก็หมดสวย! คือไม่มากเท่าเขา!
โมน่า "มันเกิดขึ้นจากอะไรค่ะ ทำไมมาเกิดกะหนูล่ะ"
ฮอทไลน์ "หนูรู้สึกน้อยใจที่ตัวเองไม่สวย…จากจุดนี้พี่อยากจะชี้ให้เห็นว่า การที่น้องขาดความภาคภูมิใจในตนเอง คือไม่ยอมรับความเป็นตัวของตัวเองว่า “เรา” เกิดมาหน้าตาเป็นอย่างนี้ ธรรมชาติให้มาถึงจะไม่สวยเลิศเลอ ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่ หรือพิกลพิการ ก็นับว่าเป็นบุญอยู่มาก แต่พระเจ้าก็ได้ให้สติปัญญาความเฉลียดฉลาดมันสมองและสามัญสำนึกมามากจนคนที่เรารักและใครๆ ก็แลเห็น เพราะฉะนั้นได้เท่านี้ก็นับว่าดีกว่าคนสวยๆ ที่ขาดมันสมองและสติปัญญา เพราะว่าความสวยนั้นมันมีแต่วันที่จะโรยรา ส่วนสติปัญญามันมักจะงอกงามเจริญเติบโตขึ้นตามอายุขัย ฉะนั้นจะมิเป็นการดีกว่าหรือที่เราจะเรียนรู้ในการสร้างสมความดีงามทางจิตใจทางมันสมองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และยอมรับว่าตัวเราเป็นคนไม่สวยแต่ก็มีคุณสมบัติอื่นที่เลิศเลอกว่า"
โมน่า "แล้วหนู ควรทำยังไงดีละคะ"
ฮอทไลน์ "พี่เห็นว่าน้องควรมีความภูมิใจในตนเองมากกว่าที่จะพยายามลดตัวเองไปเปรียบเทียบกับความสวยงามที่ไม่จีรังและยังเป็นการาทำร้ายตนเองให้เจ็บปวดด้วย อย่าลืมว่าการนำตัวเองเข้าไปเปรียบเทียบกับใครๆ นั้นก็มีแต่จะนำความไม่สบายใจมาสู่เรา และยิ่งถ้าเราพยายามจะเอาชนะด้วยการไปแต่งเติมเสริมสวยเข้าด้วยแล้ว เราก็จะเป็นผู้พ่ายแพ้ตลอดกาลเพราะไม่ว่าจะหนทางหนึ่งทางใดเราย่อมจะพบกับคนที่ดีเด่นกว่าเราเสมอ หยุดทำร้ายตนเองด้วยการนำตนเองไปเปรียบเทียบกับใครๆ เสียเถอะค่ะ หันมาภูมิใจในความเป็นตัวของตนเองดีกว่า"
โมน่า "แล้วทำไมเขาต้องไปมองผู้หญิงสวยๆ ด้วยค่ะ"
ฮอทไลน์ "อนึ่ง เรื่องจะห้ามคู่รักเราไม่ให้มองผู้หญิงสวยๆ นั้นคงเป็นเรื่องยากและยิ่งเราทำท่าตะบึงตะบอนให้เขาเห็น เท่ากับให้เขาเห็นความไม่สวยของเรามากขึ้น และจะดูแย่ในสายตาเขามากขึ้น พี่เข้าใจค่ว่าน้องหวั่นไหว กลัวจะเสียคนรักไป แต่น้องไม่คิดบ้างหรือคะว่า 'ความสวยงามนั้นมีไว้ไห้คนได้ชื่นชม' ดูดอกกุหลาบดูผีเสื้อแสนสวยสิคะมีใครบ้างสามารถหักห้ามใจให้มองมันได้"
"…ถึงผู้ชายหล่อๆ ก็เถอะ บางทีเห็นแล้วยังอดมองแล้วมองเล่าไม่ได้ ผู้หญิงสวยๆ ก็เช่นกันค่ะ มีไว้เพื่อให้ใครๆ มอง ฉะนั้นถ้าน้องยอมรับความจริงข้อนี้เสีย และแทนที่จะห้ามปรามพอเห็นใครสวยๆ ก็ชี้บอกและให้เขามองเลย เท่ากับแบ่งปันความรู้สึกที่มีส่วนร่วมด้วยกัน"
โมน่า "แล้วมันดีหรือค่ะ ที่มาบอกหนูว่าคนนั้นคนนี้สวย"
ฮอทไลน์ "การที่เราสามารถจะรู้และมีส่วนร่วมในการแสดงความรู้สึกนึกคิดกับคนที่เรารักได้นอกจากเป็นการสร้างเสน่ห์ผูกใจเขาไว้ให้เปิดเผยความในใจกับเราได้เสมอ ดีกว่าการที่จะกันให้คนนอก หรือตัวเราเอง กันตัวเราจากการเป็นส่วนหนึ่งในตัวของเขานะคะ ก็เหมือนการไปดูภาพยนตร์แหละค่ะ บางทีถ้าเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้น้องไม่ชอบเขาไม่กล้าชวนก็อาจจะหลบไปดูคนเดียว บางทีก็เหงาไม่มีคนคุยแสดงความคิดเห็นหรือหัวเราะด้วย ต่อไปเขาอาจหาคนอื่นไปเป็นเพื่อนแทนน้องก็ได้นะคะ"
โมน่า "ทำไมผู้หญิงต้องหึงล่ะคะ พี่"
ฮอทไลน์ "สำหรับเรื่องของความหึง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เพียงแต่อย่ามีให้มากจนกลายเป็นทำร้ายตัวเราเองและคนที่เรารัก ความหึงเป็นอารมณ์ เป็นความรู้สึกหวงแหนในสิ่งที่เป็นที่รักของเรา เป็นความกลัวว่า ของรักนั้นจะถูกคนอื่นแย่งชิงไปและบางครั้งก็หวงแม้จะไม่มีใครมองของรักชิ้นนี้"
"…พูดกันตามความจริงแล้ว ความหึงหวงก็เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของคนเรานั้นเอง ซึ่งพูดตามสิทธิทุกอย่างที่เป็นของเราเราย่อมต้องการรักษาปกป้องไม่ให้ใครมาก้ำเกินหรือก้าวร้าว แต่ถ้าความหึงนั้นเกี่ยวข้องกับตัวบุคคล คือเป็นตัวคนรักของเรา และการที่เขาได้ชื่อว่าเป็นคนรักหรือแม้กระทั่งสามีหรือภรรยาเราแต่อย่าลืมว่าเขาก็ยังคงเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งมีเลือดเนื้อวิญญาณมีความคิด มีความต้องการที่จะดำรงรักษาศักดิ์ศรีความเป็นตัวของเขาไว้นะคะ
โมน่า "แล้วหนูควรทำไงต่อไปดีคะ"
ฮอทไลน์ "อย่าถือสิทธิที่จะเป็นเจ้าของเขาทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าเขาไม่เต็มใจมอบให้เราทั้งหมดจริงๆ พูดอีกทีก็คือ การจะหึงหวงเป็นการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของในบุคคลคนนั้น แต่ต้องอยู่ภายในขอบข่ายที่เขาพอใจจะให้เราหึงด้วย"
"บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินเพื่อนบางคนคนเราปรารภว่า 'แฟนหรือคนรักของฉันไม่เห็นหึงฉันเลยสงสัยจะหมดรักเราซะแล้ว!' เป็นคำพูดทีเล่นทีจริงกึ่งน้อยใจที่ไม่ได้รับความเอาใจใส่ หรือการแสดงความสนใจ ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ค่า เราทุกคนต่างก็ปรารถนาจะได้รับความรู้สึกว่าเป็นคนมีค่าเป็นที่รักที่ต้องการของใครๆ โดยเฉพาะคนที่เรารักนะคะ"
"…แต่บ่อยๆ เช่นกันที่เราได้ยินคำปรารภอย่างหงุดหงิดเบื่อหน่ายว่า 'แหม…มีแฟนหรือคนที่บ้านขี้หึงมากๆ นี่กลุ้มใจจริง!' นั่นคือการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าาของที่มากเกินไปทำให้ผู้รับรู้สึกเหมือนตัวเองขาดอิสรภาพ ไม่สามารถจะเป็นตัวของตัวเองได้ทำให้เกิดความอึดอัด ไม่พอใจและกลายเป็นความเบื่อหน่ายในที่สุด"
โมน่า "พี่มีอะไรจะแนะนำหนูอีกไหมค่ะ"
ฮอทไลน์ "เราต้องยอมรับว่า บุคคลทุกคนรักที่จะเป็นตัวของตัวเอง พูดง่ายๆ ถึงจะมีคู่รักมีคู่ครองเขาก็หวังว่าจะมีส่วนหนึ่งซึ่งยังคงความอิสระ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของตัวเขาเองอยู่ การที่เราจะหวังเข้าครอบครองเขาทั้งหมดก็เท่ากับไปจำกัดขอบเขตความรู้สึกเป็นตัวของเขาเองทำให้เขาเกิดความรู้สึกอึดอัด เกร็ง เครียด จนถึงหงุดหงิดกับการแสดงความเป็นเจ้าของตัวเขาเกินไป ฉะนั้นการจะรักใครจะหึงใครก็ต้องระแวดระไวไม่ให้เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นบุคคลของเขาไป เพราะเท่ากับเป็นการทำลายตัวเราเองด้วย"
"สิ่งหนึ่งซึ่งจะมองข้ามไปเสียมิได้ก็คือ การแสดงออกซึ่งอารมณ์หึงหวงนั้น สืบเนื่องมาจากพื้นฐานความไม่มั่นใจในคุณสมบัติของตัวเราว่าสามารถจะผูกมัดจิตใจเขาไว้ได้ตลอดไป หรืออีกประการหนึ่งก็คือ เพราะเขามีนิสัยหรือพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น เป็นคนเจ้าชู้ เข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนก็รักดะไปหมด"
"…ถ้าเป็นประการแรกเราก็ต้องเสริมสร้างคุณสมบัติที่เรารู้ว่าจะนำความพอใจมาสู่เขา แน่นอนเราก็ยังรักที่จะเป็นตัวของตัวเราอยู่ แต่ก็จงทำในส่วนที่ผูกพันเราด้วยกันไว้ เขารักเพราะอะไร ถนอมส่วนนั้นไว้การที่คนเรารักกัน ควรจะต้องประกอบไปด้วยบรรยากาศแห่งความดีงาม ความเข้าอกเข้าใจกัน ความเห็นใจซึ่งกันและกัน สิ่งไหนเป็นข้อขัดแย้งก็ควรจะมีการพูดจาตกลงกันให้ชัดเจน การวิ่งไปหึงหวงแทนที่จะหาทางแก้ไขให้ตรงกับปัญหามีแต่จะดึงทึ้งหัวใจให้เจ็บปวดแหลกราญ และเมื่อนั้นความรักก็จะไม่เรียกว่าความรักต่อไปกลายเป็นการทรมาน ซึ่งกันและกัน! และถ้าเขาและเธอเป็นคนเจ้าชู้ทั้งคู่ มีผู้คนมากล้ำกลายพัวพันไม่ขาด หรือประเภทชอบบริหารความหล่อ ขอให้ได้แสดงความเจ้าชู้ไว้บ้าง เจอะใคร ใกล้ใครก็ทำใจง่ายไปหมด แบบนี้ตราบใดที่เขาไม่ทำให้ทั้งตัวเองหรือคนอื่นเดือดร้อน พอจะผ่อนได้ก็ผ่อนไปเถอะค่ะ ขืนต้องคอยวิ่งตามหึง สงสัยไม่โรคหัวใจก็โรคประสาทจะกินเอา แบบนี้ถ้าน้องหรือใครได้ประสบพบเจอก็ขอให้ถามใจตนเองให้ถ่องแท้นะคะว่า “เขา” มีค่าคุ้มหรือไม่กับการตามหึง!"
โมน่า "หนูว่าไม่คุ้มนะ"
ฮอทไลน์ "คุยมาเท่านี้คงช่วยให้น้องได้มองเห็นพฤติกรรมของตนเองได้นะคะว่ามีสาเหตุมาจากอะไรและทำอย่างไรจึงจะแก้ไขหรือกำจัดความรู้สึกและอารมณ์ที่ไม่สมบูรณ์นั้นเสียได้ หลายๆ ท่านอาจแย้งว่าเรื่องแบบนี้พูดง่ายแต่ทำยาก พี่ก็ยอมรับนะคะว่ายากจะทำ แต่อ่านหลายๆ ครั้งแล้วค่อยๆ คิดค่อยๆ ฝึกหัดปฏิบัติตนไป ก็จะช่วยให้น้องเข้าใจและสบายมากขึ้นค่ะ เลิกหึงได้แล้วนะคะ"
โมน่า "ขอบคุณค่ะ พี่ หนูจะพยายามหึงเขา ให้น้อยลงค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"
“เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณผู้หญิงผู้ชาย เป็นคนขี้หึง หรือชอบหวงคนรัก ชนิดเก็บใส่กระเป๋าไว้แนบตัวเลย ห้ามใครมองหรือห้ามมองใครกันหรือเปล่าครับ หากเป็นอย่างที่พูดมา ก็ลองถามตัวเองซิว่า เหนื่อยไหม กับการที่ต้องวิ่งตามหึงหวงน่ะ!” |