Thaiteenline-logo
home about law teens article hotline contact
 
     
     
 

Hotline Mobile: ความรักเคลื่อนที่

Hotline Mobile :

ความรักเคลื่อนที่

พิมน้อง ที่รัก

                   แล้วโครงการ Hotline Mobile หรือความรักเคลื่อนที่ก็เริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง สำหรับพี่ ความจริงเราก็มีอยู่หลายกลุ่มที่แบ่งกันไปทางใต้ก็มี ทางเหนือก็มี ส่วนพี่นี่ก็เป็นครั้งที่สอง ที่ผู้อำนวยการมอบหมายให้นำทีมไปที่โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยระหว่างวันทื่ 22-26 สิงหาคมนี้ แต่เราต้องไปล่วงหน้า 1 วัน เพื่อเตรียมตัว สำหรับทีมงานครั้งนี้ประกอบด้วยนักจิตวิทยา 3 คนเช่นเคย โดยมีพี่น้ำฝนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฮอทไลน์เชียงใหม่ ลงมาร่วมงานเพื่อมาเรียนรู้ชีวิตของเด็ก ๆ ในภาคอีสานด้วย

                ความจริงการที่เราเดินทางเอาความรักไปให้เด็ก ๆ นั้น พร้อมกันก็ได้เรียนรู้ที่จะทำให้เกิดความกระตือรือล้นในการปรับปรุงคุณภาพในการทำงานของตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพราะการนั่งรับโทรศัพท์อยู่กับที่นาน ๆ เข้าเราอาจเบื่อ และชาชินกับงานจนทำให้ขาดความสนใจในการแสวงหาความรู้ หาข้อมูลใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ขณะเดียวกันเจ้าสที่ศูนย์ฮอทไลน์ของทุกภาคจะได้มีโอกาสทำงานเป็นทีมกับข้างนอก พี่อยากจะบอกว่า แรก ๆ บางคนก็ไม่อยากไป ไม่กล้าไปที่แปลกถิ่น ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพวกเราส่วนใหญ่คุ้นเคยกับชีวิตความสะดวกสบายในที่ที่ทำงานอยู่แล้ว แต่ผู้อำนวยการของศูนย์ฯ ท่านมีวิธี มีแผนงานและมีโครงการที่จะจะให้พวกเรา active และสามารถนำคุณค่าในตัวเรามาแบ่งบันให้กับสังคมได้อย่างเกิดประโยชน์มากที่สุด

                 พี่ขอย้อนเล่ากับถึงเวลาเตรียมการที่เราติดต่อสื่อสารกันระหว่างฮอทไลน์กับครูแนะแนวโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ซึ่งเชิญเจ้าหน้าที่ศูนย์ฮอทไลน์ไปร่วมงานนิทรรศการ สัปดาห์ส่งเสริมสุขภาพจิต ของนักเรียน เราได้ติดต่อกันทางจดหมายอยู่หลายฉบับ และในที่สุดเลขาฯ ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้โทรศัพท์ทางไกลมานัดแนะเวลาที่จะไปรับพวกเราเมื่อเวลาไปถึง คือประมาณตี 5 ของวันที่ 21 สิงหาคม โดยมีรถโฟล์คตู้ของโรงเรียน...จอดคอยอยู่พร้อมทั้งให้เบอร์โทรศัพท์ที่โรงเรียน และที่บ้านครูแนะแนวไว้ด้วยความรอบคอบ ไม่น่าจะมีปัญหาเลย ใช่ไหมพิม ความอบอุ่นใจพี่มีอยู่อย่างเต็มที่เมื่อขึ้นรถทัวร์ออกจากตลาดหมอชิต ว่าจะไม่หลงเมืองแน่ ๆ แม้ว่าจะไม่เคยไปร้อยเอ็ด แต่ก็ภาคอีสานเหมือนกันอุดรธานีที่เคยไปนั่นแหละนะ วีดีโอบนรถทัวร์ก็ดูเหมือนจะเต็มใจในการช่วยสร้างบรรยากาศของชาวอีสาน คือ ดาราดังของวงลูกทุ่งออกมาร้องเพลงลูกทุ่งอีสาน รวมทั้งตลกมักจะสอดแทรกภาษาอีสานมาด้วยสำเนียงและถ้อยคำ ไปคราวนี้ พี่เดินทางกับน้ำฝนซึ่งลงมาจากฮอทไลน์เชียงใหม่ และนิลจากศูนย์ฮอทไลน์ขอนแก่นไปร่วมสมทบการออก Hotline Mobile นี้  ศูนย์ฯ มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในภาคนั้น ๆ  ได้มีส่วนร่วมไปด้วยหนึ่งคน เพื่อจะได้ติดตามในเรื่องประเมินผลหลังจากเสร็จสิ้นโครงการในโรงเรียนนั้นไปแล้ว เช่น นักเรียนจะสามารถติดต่อพูดคุยทั้งทางจดหมาย และทางโทรศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น หากได้มีการรู้จักกันมาก่อน เอาเป็นว่าพวกเรา สบายกาย สบายใจพอสมควรสำหรับงานนี้ในระยะเตรียมพล

                อีก 10 นาทีจะตี 5 ของวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม รถทัวร์จอดบอกว่าถึงร้อยเอ็ดแล้วน้ำฝนยังลังเลใจ จึงถามบัสโฮทเตสว่า จุดจอดมีแห่งเดียว ใช่ไหม ก็ได้รับคำตอบว่าแห่งเดียว เราจึงต้องลงตามระเบียบ ก็มีกระเป๋าคนละใบกับโปรเตอร์ม้วนใหญ่ สำหรับจัดบอร์ดตามเคยนั่นแหละ สามล้อถีบหลากเสียงก็กรูกันเข้ามาเพื่ออาสาไปส่งเราพี่บอกเขาอย่างชัดเจนว่า จะมีรถมารับ เขาคงไม่อยากเชื่อกระมัง หรือเขาคิดว่าถ้าไม่พูดอะไรออกมา ก็คงจะดีกว่าอยู่เฉย ๆ พี่ก็เลยถือโอกาสคุยเพื่อสร้างความเป็นมิตร เพราะการที่เราเป็นคนแปลกถิ่น ยืนอยู่มืด ๆ ในสถานที่เราไม่เคยมานั้น สร้างความอึดอัดอยู่ไม่น้อย พอคนขับสามล้อทราบว่าเราจะไปโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย ก็ขันอาสาจะไปส่งกัน บอกราคา 10 บาทเท่านั้นเอง  ซึ่งเป็นราคาค่อนข้างแพงสำหรับต่างจังหวัด น้ำฝนบอกว่าไม่ได้เกี่ยงราคานะค่ะ แต่กลัวคนจะมารับรอเก้อ ในขณะเดียวกันนั้นเราก็เห็นรถของส่วนราชการ

หนึ่งซึ่งจอดอยู่ข้าง ๆ เรา คงสังเกตว่าเราเป็นคนต่างจังหวัด เขาค่อย ๆ ขับรถมาหาเรา ถามเบา ๆ ว่า จะไปไหนครับ เมื่อทราบก็อดไม่ได้จะบุ้ยปากบอกว่า อยู่ติดกันนี่เอง ด้วยความหวังดี บังเอิญน้ำฝนมองเห็นตู้โทรศัพท์สาธารณะ จึงรีบวิ่งไปโทรถึงอาจารย์แนะแนวที่บ้าน จึงทราบว่า รถไปรอรับที่สถานีขส่ง ซึ่งคนละจุดนัดพบกันรถทัวร์ที่เราไป ไม่มีคิวที่จะจอดในสถานีขนส่ง กว่าเราจะรู้ว่าถูกสามล้อร้อยเอ็ดหลอก ก็เมื่อรถโรงเรียนเลี้ยวเข้าประตูโรงเรียนใน 2 นาที เมื่อเราขึ้นนั่งรถ ยังดีนะที่ไม่ยอมให้เขาหลอก นี่คือก้าวแรกที่สัมผัสเมืองร้อยเอ็ด

                มาครั้งนี้ เราก็ได้นอน ห้องพยาบาล เพราะหัวหน้าอาจารย์แนะแนวบอกว่าสะดวกที่สุดสำหรับพวกเราแล้ว ห้องพยาบาลนั้นอยู่ชั้นล่าง ห้องแนะแนวอยู่ชั้นบน พวกเราจะทำงาน อาบน้ำ แต่งตัว ทานข้าวบนห้องแนะแนว สำผัสแรกของพวกเราบอกกันว่า จะห้องได้อย่างไรเพราะ กลิ่นโรงพยาบาล ทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนป่วย แต่พอได้นอนจริง ๆ แล้วก็สบายดี และไม่ค่อยได้สูดกลิ่นยาเลย  พอลงไปนอน หลับตา ก็หลับไปเลย

                พี่อยากแนะนำให้พิมรู้จักทีมครูแนะแนวที่นี่ หัวหน้าแนะแนวชื่อ อาจารย์เอี่ยมจิต ดีศรีแก้ว

เป็นครูแนะแนวที่พี่คิดว่ามีลักษณะเหมาะสมที่เป็นครูแนะแนวหลายอย่างที่น่าเป็นแบบฉบับของครูแนะแนวได้ คือ มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีเวลาที่จะอุทิศให้กับงานแนะแนวอย่างเต็มที่ และมีบุคลิกเด่น คือ เป็นคนที่คนอื่นให้ความเชื่อถือ ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ขัน สามารถประสานงาน และความร่วมมือจากทุกหมวด และทุกฝ่ายในโรงเรียนได้ ครูแนะแนวอีก 4 คนนั้น ไม่ได้จบทางด้านจิตวิทยามาโดยตรง มีอาจารย์แนะแนวผู้ชายด้วยนะค่ะ แต่พี่คิดว่าทุกคนมีใจรักที่จะทำงานแนะแนวมากใช้ได้ เมื่อมีหัวหน้าทีมที่ดี ช่วยให้งานเดินมากทีเดียว อาจารย์เอี่ยมจิตเล่าให้พี่ฟังว่าการให้บริการสนเทศค่อนข้างสมบูรณ์พอสมควร แต่บริการด้านให้คำปรึกษาหารือ เหมื่อนหลาย ๆโรงเรียนที่ว่า กลายเป็นเรื่องที่มีความสำคัญรองลงไป อ.เอี่ยมจิตบอกว่ายังขาดความมั่นใจอยู่มากในการให้คำปรึกษาเด็ก เช่น การแยกแยะปัญหาเด็กออกมาไม่ได้ตรงจุด ไม่กล้าไม่มีโอกาสทำกลุ่มอีกอย่างหนึ่ง งานของครูแนะแนวเต็มมือจนดูเหมือนว่าละเลยงานที่สำคัญไป แต่สิ่งที่พี่คิดดีมากคือ อ.เอี่ยมจิตขอให้ครูแนะแนวพยายามพบเด็กในห้องี่ตนเองรับผิดชอบวันละ 1 คน มีการประชุมทีมงานสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และแก้ไขการทำงาน แต่ก็นั่นแหละนะพิม การทำงานด้านจิตใจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เพราะ มันไม่เห็นผลทันตา หากไม่มีหัวใจรักและเมตตาแล้ว ยากจริง ๆ อย่างไรก็ตามพี่ชื่นชมการทำงานของครูแนะแนวที่นี่มากการไปของพวกเรานั้นเขามองเห็นในรายละเอียดถึงการทำงานของเรา สนใจและสังเกตทำงานของเราทุกขั้นตอน อยากเรียนรู้การทำงานด้านการให้คำปรึกษาของศูนย์ฮอทไลน์  เช่น การที่เราเข้าห้องไปพูดคุยกับเด็ก แจกแบบสอบถาม ดึงเด็กทีมีปัญหาออกมาพบ อ.เอี่ยมจิตตั้งข้อสังเกตกับพี่ว่า ฝ่ายแนะแนวทำแบบสอบถามกับเด็กหลายครั้ง หลายรูปแบบ ทำแล้วก็เข้าแฟ้ม เข้าตู้ ไม่เคยนำมาวิเคราะห์หรือเอาออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับเด็กเลย อาจารย์ได้มองเห็นวิธีการปรับปรุงการทำงานของตนเองทันที พี่ถือว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้มีค่ามาก คนเราต้องปรับปรุงตัวเอง อยู่เสมอ ใช่ไหมจ๊ะ คนที่อยู่รอบข้างเราจะสะท้อนให้เรามองเห็นชัดเจนว่าเราจะต้องปรับปรุงอย่างไร?

                สายของวันอาทิตย์นั่นเอง เราก็เริ่มติดบอร์ดข้อมูลต่างๆ ที่เรานำไป โดยมีนักเรียนชั้นม. 6 ช่วยกันติด ทั้งหมดรวม 5 บอร์ด และเย็นวันนั้นเองพวกเราได้รับเลี้ยงการต้อนรับจากครูแนะแนวทุกคนที่นัดพบกันที่ร้านอาหาร พี่ไม่ลืมจะบอกพิมว่า พวกเราซาบซึ้งในการบริการ และการอำนวยความสะดวกมาก ความจริงแล้วการบริการของศูนย์ฮอทไลน์ไม่ได้เรียกร้องเหล่านี้จากโรงเรียนที่เราไปเลย เพราะเน้นประโยชน์ของเด็กนักเรียนและครูเท่านั้น แต่เมื่อทางโรงเรียนมองเห็นคุณค่าที่เรานำไปหยิบยื่นให้ และตอบสนองด้วยสิ่งที่ดีงาม พี่คิดว่าเป็นความมีเสน่ห์ของบุคคลที่มีจิตใจดี น่ายกย่องนะคะ

                การที่พวกเราไปอยู่ที่นั่น เราไม่รู้สึกว่าเป็นคนแปลกหน้าเลย  อาจจะเป็นเพราะว่าฝ่ายแนะแนวได้มีการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้น เวลาเราเดินไปที่ไหน ทั้งเด็กนักเรียน และครูก็จะมายิ้มแย้มทักทายอย่างเป็นกันเอง โชคดีจริง ๆ

                พี่มาคราวนี้ ส่วนมากจะใช้เวลาอยู่ที่ห้องให้คำปรึกษาหารือมากกว่า เพราะมีเด็กที่เข้ามาในเวลาเรียนด้วย ทั้งมาเอง และครูแนะแนวนัดมาให้ น้ำฝนและนิลจะเป็นฝ่ายเข้าห้อง ม.3-6 รวมทั้งหมด 25 ห้อง นักเรียน 867 คน ชาย 570 คน หญิง267 คน เด็กเข้ามาปรึกษารายบุคคล 20 คน รายกลุ่ม 2 กลุ่ม

                พิมจ๊ะ พี่สังเกตจากการคุยกับเด็กที่มีปัญหาครอบครัว ส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารกับพ่อแม่ หรือบุคคลภายในครอบครัวได้ เด็กมักจะเรียกร้องให้พ่อแม่เข้าใจ และตามใจตนเองมากกว่าที่จะเรียนรู้วิธีเข้าไปใกล้พ่อแม่ และอธิบายความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ได้รับรู้ เด็กจะคิดว่าเป็นเพราะตนเองได้มีโอกาสเรียนสูง พ่อแม่เรียนน้อยกว่า จึงเกิดช่องว่างทางความคิด ซึ่งที่จริงแล้วพ่อแม่ก็ขาดการสื่อสารที่ถูกต้องกับลูกเมื่อเข้ามาอยู่ในวัยรุ่น ความสับสนที่เข้ามาทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องส่วนตัว ประกอบกับความไม่สามารถระบายความคับข้องใจออกไปได้ เพราะไม่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่กับคนในครอบครัว ทำให้เด็กมีบุคคลิกภาพที่ขาดความเชื่อมั่น ปรับตัวเข้ากับกลุ่มไม่ได้ บางคนถึงกับเข้าสู่โลกที่ตนเองสร้างขึ้น มีเด็กชายคนหนึ่งเข้ามาหาพี่ด้วยปัญหาเรื่องการเรียนตกต่ำ เข้ากับเพื่อนในห้องไม่ได้ เพราะเพื่อนหาว่าตนเองเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ชอบนั่งยิ้มคนเดียว เด็กสารภาพกับพี่ว่า เขาฟุ้งซ่านมากควบคุมความคิดตนเองไม่ได้ สาเหตุของปัญหาคือ เด็กขาดการยอมรับในครอบครัว พ่อแม่ พี่สาว น้องชาย จะไม่คุยกันเลย ต่างคน ต่างอยู่ แม้กระทั่งงานบ้านพ่อแม่ก็บอกว่าผู้ชายไม่ต้องทำ เนื่องจากค่านิยมที่ไม่ถูกต้องของพ่อแม่ เด็กเห็นว่าบ้านรกตนเองมีน้ำใจที่จะทำความสะอาดบ้าน พ่อแม่ก็ไม่เคยชมเชย หรือให้กำลังใจอะไร เด็กจึงเกิดความไม่แน่ใจว่าควรจะปฎิบัติตนอย่างไร เพื่อให้พ่อแม่พอใจ ปัญหาจึงเกิดขึ้นจนตนเองจึงหลบไปสร้างโลกของตน ผู้ที่เกิดปัญหาการปรับตัวอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ เด็กที่เรียนเก่งมาจากอำเภอรอบนอก เมื่อสอบเข้ามาเรียนในโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยได้ การเรียนจึงตกต่ำลงเพราะมาเปรียบเทียบกับเด็กที่เรียนเก่งในจังหวัด ประกอบกับความสามารถในการปรับตัวช้า จึงทำให้รู้สึกว่าตนเองมีปมด้อย ท้อแท้ ถดถอย ไม่ยอมเข้ากลุ่ม พี่ได้เสนอให้ทางโรงเรียนจัดกลุ่ม จับเข่าคุยกัน เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เปิดเผยตนเองในกลุ่มเล็ก โดยมีครูแนะแนวช่วยเป็นโค้ชให้ พี่ถือว่าเป็นการปฎิบัติความรักอย่างหนึ่ง ซึ่งออกมาในรูปของการแบ่งปัน หากฉันสามารถสื่อความรู้นึกคิดของฉันให้กับเธอ เมื่อนั้นเราแบ่งปันกัน เรามีอะไรร่วมกัน เราแบ่งปันความลึกลับของตนเองให้แก่กันและกัน เหมือนกับที่พี่กำลังทำอยู่กับพิมเดี๋ยวนี้ไงล่ะ

                พี่พาพิมมาสัมผัสโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยหลายวันแล้ว ยังไม่ได้แนะนำโรงเรียนเลยโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำจังหวัดชายที่มีชื่อเสียง เป็นโรงเรียนเดียวที่สามารถสอบคัดเลือกนักเรียนเข้ามาเรียนในชั้น ม.4 ได้เพราะเด็กมาสมัครเกินความต้องการ รับนักเรียนตั้งแต่ ม.1-6 ขณะนี้มีนักเรียนทั้งหมด 2,991 คน ครู 187 คน บริเวณโรงเรียนกว้างขวางและสวยงามมากนะพิม มีสวนหย่อม สวนดอกไม้ในวรรณคดี หน้าโรงเรียนมีแถวดอกกุหลาบ และบานบุรี ตั้งเป็นระยะ ๆ อยู่ทั่วไป ทำให้บรรยากาศร่มรื่นมาก สิ่งที่พี่ชอบคือ บริเวณที่ต้นไม้สูงๆ กันแดดได้ ต้นไม่เหล่านี้จะพูดได้คือ มีสุภาษิต และคำคมติดอยู่ทุกต้น มีม้าหินอ่อนตั้งเรียงรายอยู่ทั่วไปใต้ต้นไม้เหล่านี้ ซึ่งเด็กจะใช้เป็นที่รับประทานอาหารกลางวัน เป็นธรรรมชาติมากทีเดียว หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ ที่วิเศษมากคืออะไรรู้ไหมพิม หน้าโรงเรียนจะมีตู้โทรศัพท์ทั้งทางใกล้และไกลตั้งอยู่ กลางคืนหลังจากที่พวกเราเสร็จภาระกิจประจำวันแล้ว จะแต่งตัวแบบสบาย ๆ ลงมาเดินเล่นในบริเวณโรงเรียน และแวะโทรศัพท์ส่งความคิดถึงไปยังผู้ที่อยู่ไกลกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ความรักเคลื่อนที่ไปอีกแล้ว ใช่ไหมพิม? และวันหนึ่งความรักของเราก็ต้องหยุดชะงักลง เพราะเหรียญที่หยอดลงไปอยู่ตลอดเวลานั้น ล่วงลงมาหมด ตู้เต็ม ! ความรักพบอุปสรรคเสียแล้ว...คิดว่าเราทั้งสองจะเปลี่ยนวิธีเป็นการส่งกระจิตกันนะ พิมได้รับหรือเปล่า? ใครน่ะที่บอกว่า ความรักย่อมหาหนทางได้เสมอ เห็นด้วยไหมจ๊ะ?

มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในคืนแรก คือเวลาประมาณสักสามทุ่มกว่า พวกเราได้ยินเสียงผู้ชายกลุ่มใหญ่เสียงดังอยู่บนหัวนอนเรา ซึ่งเป็นคลอง คลองนี้เป็นส่วนหนึ่งของคลองที่ล้อมรอบเมืองร้อยเอ็ด ครั้งแรกพี่คิดว่าเขาจับขโมยกัน พอรุ่งขึ้นจึงได้ทราบว่า ครูผู้ชายหารายได้พิเศษโดยการจับปลา เฮ้อ ! โล่งอกไปที มีอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นในคืนสุดท้าย คือประมาณห้าทุ่มกว่า น้ำฝนกับนิลออกไปดิสโก้เธคกัน บอกกับพี่ว่าจะไปหาข้อมูล รุ่งขึ้นพี่ก็ได้ยินทั้งสองคนร้องต๊าย ตาย ! อยู่หลายรอบ ในขณะที่เล่าบรรยากาศอันร้ายกาจของดิสโก้เธคที่ไม่ได้มาตราฐานให้พี่ฟังเราจึงได้ข้อมูลเสนอแนะครูแนะแนวว่า โรงเรียนน่าจะจัดกิจกรรมกลุ่มออกกำลังกายขึ้น เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในทางที่ถูกที่ควร

เย็นวันก่อนกลับ ผู้อำนวยการโรงเรียนให้เกียรติส่งพวกเราด้วย ท่านมีบุคลิกที่น่านับถือ สนใจและเข้าใจงานแนะแนวมากทีเดียว  พี่ยังจำคำของท่านที่พูดวันเปิดงาน สัปดาห์สุขภาพจิต

ได้เลยว่าท่านจะพยายามทำประโยชน์ให้กับโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัยให้ได้มากที่สุดเท่าที่ท่านสามารถแต่สิ่งเดียวที่ท่านจะนำติดตัวไปเมื่อท่านย้ายไปจากโรงเรียนนี้ คือ คติพจน์ที่ติดอยู่บนต้นไม้ต้นที่ 2 นับจากประตูโรงเรียน คือ พบปัญหาอย่าท้อแท้ หนทางแก้ยังมี  ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดสมเป็นนักบริหารจริง ๆ

                7 วันแห่งความสุขที่ร้อยเอ็ดวิทยาลัย ได้ผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว วันสุดท้ายอาจารย์เอี่ยมจิตยังได้พาเที่ยวชม บึงพลาญชัย สวนสาธารณะ กลางใจเมืองร้อยเอ็ดที่ขึ้นชื่อด้วย พี่มีรูปสวย ๆ มาให้พิมดูเยอะแยะ ถ้าให้พี่สรุปการไป Hotline Mobile  ครั้งนี้พี่ก็สรุปได้ว่า เป็นอัศจรรย์ของความรักอย่างหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาเพียง 7 วัน เท่านั้นเองที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มีค่า มิตรภาพที่จริงใจกับบุคลที่เราไม่เคยคิด ไม่เคยพบมาก่อน เพียงแต่เราเปิดใจของเราให้กว้างเท่านั้นเอง และพี่แน่ใจด้วยว่า กลับกรุงเทพฯ คราวนี้ พี่สามารถแบ่งปันประสบการณ์เหล่านี้ให้กับคนรอบ ๆ ข้างได้ด้วย

                โรงเรียนต่อไปที่ความรักของฮอทไลน์จะเคลื่อนที่ไปถึง คือ โรงเรียนพานพิทยาคม ระหว่างวันที่ 14-18 พฤศจิกายนนี้ พิมคงต้องมีส่วนในประสบการณ์ครั้งนี้พร้อมกับพี่อีก จบเท่านี้ก่อนนะจ๊ะ  

ด้วยความรัก

พี่ฮอทไลน์

 

 

     
 
  Counter 203,488
 
 
© 2012 Thaiteenline. All Rights Reserved. หน้าหลัก | ความเป็นมา | กฎหมายเด็กและครอบครัว | วัยรุ่นอยากรู้ | บทความวัยรุ่น | ฮอทไลน์เคลื่อนที่ | ติดต่อเรา