Thaiteenline-logo
home about law teens article hotline contact
 
     
 

เพื่อนคนนั้นสำคัญไฉน?

เพื่อนคนนั้นสำคัญไฉน?

 

                ในชีวิตของคนเราทุกคน  เป็นธรรมดาจะต้องคบหาเพื่อนฝูงเอาไว้พูดคุยปรึกษาหารือด้วยเสมอ และบรรดาเพื่อน ๆ มากมายนั้นก็คงจะมีอย่างน้อยสักคนหนึ่ง  ซึ่งถูกใจเราเป็นพิเศษจะเป็นเพศเดียวกับเราหรือต่างเพศก็ได้  โดยเรานับว่าเราหรือเธอนั้นอยู่ในฐานะเพื่อนสนิท  และคนบางคนก็มีเพื่อนสนิทมากกว่าหนึ่งคน  ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทมีความสำคัญมากสำหรับชีวิต  คือบุคคลที่มักจะล่วงรู้ความในใจและความเป็นไปของเรามากกว่าเพื่อนคนอื่น ๆ และเราทุกคนก็อยากจะมีเพื่อนสนิทด้วยกันทั้งนั้น แม้จะมีเพียงสักคนเดียวก็ตาม

 

                เพื่อนสนิทของเราอาจจะเป็นเพศตรงข้ามก็ได้  แต่ส่วนใหญ่เราก็มักจะมีเพื่อนสนิทเป็นเพศเดียวกับเรา และเพื่อนคนนี้ก็มักจะเป็นคนที่ใกล้ชิดกับเรามาก  อาจจะถึงขนาดเข้านอกออกในบ้านเราได้ หรือบ่อย ๆ ก็มานอนค้างคุยกันที่บ้าน จะไปเที่ยวไหน ถ้าต้องค้างคืน ก็ต้องจองตัวไว้นอนเป็นเพื่อนกัน

                ความใกล้ชิดระหว่างเพศเดียวกัน  หากมีมากเกินไป  อาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน  และเพราะความเยาว์วัยไรประสบการณ์  อาจทำให้เกิดพฤติกรรม  “รักร่วมเพศ”  ขึ้นได้ คำว่า “รักร่วมเพศ”  หรือ  “รักเพศเดียวกัน”  (Homosexuality)  ถ้าเป็นเพศชายกับเพศชาย  เรียกว่า  “ไฮโมเซ็กชวล”    หรือ    “เกย์”     (Hormosexual/Gay)  ถ้าเป็นหญิงกับหญิงเรียกว่า  “เลสเบี้ยน”  หรือ  “ ทอมกับดี้”   (lesbian)

 

                เนื่องจากสังคมไทยที่เยาวชนส่วนหนึ่งเติบโตขึ้นมาในโรงเรียนที่แบ่งแยกเพศคือ  เป็นโรงเรียนหญิงล้วนหรือชายล้วนที่เป็นสหศึกษายังมีน้อย  เด็กจำนวนไม่น้อยจึงเติบโตใกล้ชิดสนิทสนมกับเพศเดียวกันมากกว่าเพศตรงข้าม  โดยเฉพาะที่เป็นโรงเรียนประจำ  เด็กต้องกินนอนร่วมกันห้องกันนาน ๆ อาจจะเป๋นหนทางนำไปสู่การพัฒนาทางเพศที่มีสิ่งแวดล้อมเป็นแรงผลักดันหรือในกลุ่มของนักศึกษาที่มาจากต่างจังหวัดเช่าหอพักอยู่ร่วมกัน  และเพราะสังคมยังไม่ให้ความอิสระกับความรักต่างเพศของหนุ่มสาว   ซึ่งถูกกระตุ้นโดยความต้องการตามธรรมชาติ  โอกาสที่จะพลาดพลั้งกับการทดลองเล่นสนุก ๆ ระหว่างเพศเดียวกัน อาจนำไปสู่ความยุ่งยากภายหลัง

 

                ความรักร่วมเพศอาจเกิดขึ้นได้ในสองลักษณะด้วยกัน   ลักษณะแรก  เรียกว่า  เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ถาวร คือ  เกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก  ร่างกายเป็นชายครบถ้วนแต่ชอบแต่งตัวเป็นผู้หญิงอยากสวยอยากงามวางท่าดัดเสียงและการเดินเหินเป็นเก็กหญิงเรื่อยมา  เรียกว่ากายเป็นชายใจเป็นหญิงมาแต่เด็ก  อาจถือได้วาเป็นอุบัติเหตุทางธรรมชาติ  หรือเด็กหญิง แต่ชอบแต่งตัวเป็นชาย พูดวาจาวางท่าเป็นชาย เมื่อร่างกายเริ่มพัฒนาตามวัยก็ไม่ชอบไม่พอใจร่างกายตนเอง  อยากปกปิดไม่ยอมให้ใครสังเกตุเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของตนพยายามทำตัวเป็นคนเข้มแข็ง  เมื่อชอบเพื่อนหญิงคนไหนเป็นพิเศษก็คอยติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดบ่อย ๆ ที่เราเรียกผู้หญิงที่มีลักษณะเช่นนี้ว่า  “ทอมบอย”  หญิงหรือชายที่มีอยู่ในลักษณะแรกนี้ เมื่อเกิดรักใคร่ชอบพอเพศเดียวกันกับคนหนึ่งคนใดพิเศษ  อาจจะมีลักษณะรักแรงโกรธแรง แสดงอาการหึงหวงอย่างออกนอกหน้าบางครั้งถึงกับลงมือตบตีเพื่อนนอนของตนที่จะเอาใจออกห่างก็มี

                เหตุผลส่วนหนึ่งในการแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ก็คือ  เพราะรู้สึกขาดความมั่นใจขาดความภูมิใจใจตนเอง     มีความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลาว่า  ตัวเองอาจไม่มีค่าเพียงพอที่จะเป็นที่รักของคนอื่น  จึงชอบแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อเรียกร้องให้อีกฝ่ายเห็นความสำคัญของตนโดยการให้กำลังเข้าบังคับ

 

                ส่วนลักษณะที่สอง  เรียกว่า  เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราว สาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยผลักดัน   เช่น  เด็กชายถูกเลี้ยงดูอบรมมาท่ามกลางญาติพี่น้องที่เป็นหญิง  ก็เลยมีท่าทางกระดุ้งกระดิ้งเป็นหญิงไปด้วย แต่จิตใจยังมีความเป็นชายโดยสมบรูณ์   ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ด้วยวิธีพัฒนาปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเองทำให้สามารถเรียกบุคลิกภาพความเป็นชายคืนมาได้ หรือในกรณีมากมายที่เด็กหนุ่มเด็กสาวยากจน แล้วแลกความเป็นหญิงเป็นชายให้กับเพื่อนเพศเดียวกัน  ซึ่งอยู่ในฐานะทางการเงินที่เหนือกว่าคอยให้ความช่วยเหลือเจือจุน   หรือความต้องการตามธรรมชาติถูกปลุกเร้าด้วยเพศเดียวกันเพื่อการทดลอง หรือประสบการณ์ทางเพศครั้งแรกอาจทำให้เกิดความโน้มเอียงชอบในทางนี้    ซึ่งลักษณะที่สองานี้อาจแก้ให้หายได้เมื่อเติบโตขึ้นหรือเมื่อแต่งงานมีครอบคัวกับเพศตรงข้ามแล้วก็จะเลิกพฤติกรรมที่ผ่านมา

 

                สำหรับลักษณะทั้งสองประการที่กล่าวมาประเภทมีอาการถาวรหรือผิดเพศนั้น  การเผชิญกับสายตาคนในสังคมที่ยังไม่เปิดใจกว้าง  สร้างความกดดันให้กับจิตใจเป็นหลายเท่า  แต่เขาหรือเธอสามารถจะเลือกทางเดินของตนเองได้เท่าที่พลังใจอำนวยให้สามทางด้วยกันคือ

 

                หนทางแรก ก็คือ  การผ่าตัวแปลงเพศที่เราต้องการและจิตใจเราปรารถนา    ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง  แต่ปัจจุบันวิวัฒนาการทางการแพทย์ช่วยให้เขาหรือเธอกลายเป็นบุคคลที่สังคมยอมรับกันได้แล้ว

                ทางที่สอง  คือ  ต้องการรักษาใจให้กลับมาตรงกับรูปกาย  ก็ต้องอาศัยเวลาในการปฏิบัติตามคำแนะนำของจิตแพทย์และความตั้งใจจริงของเราด้วย

                ทางที่สาม  คือ  ไม่แปลงเพศและไม่ไปหาจิตแพทย์  เป็นอย่างที่เราเป็นไม่ใส่ใจต่อวาจาซุบซิบนินทาของสังคม  ยอมรับสภาพที่จะเป็นอย่างที่เราเป็นอยู่  และหันเหความต้องการทางเพศไปเป็นหารสร้างสรรค์ทำตัวเพื่อประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง  ไม่ต้องสนใจจะหาคู่เป็นตัวเป็นตน  คงไม่ไช่เรื่องแปลกะไรที่ในสมัยนี้หญิงชายมากมายถึงไม่มีความผิดปกติทางเพศเขาก็เป็นโสดจนตายกันได้ออกมากมาย  เราจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ  สำคัญที่ว่าเราได้ทำประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติสมกับที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยก็ใช้ได้แล้ว

 

                ส่วนลักษณะที่สอง   ซึ่งเกิดขึ้นเพราะสิ่งแวดล้อมนำไป  ก็ต้องแก้ไขที่สิ่งแวดล้อม   เช่น  เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเพื่อนหญิงร่วมห้อง  จะเพราะความว้าเหว่  ความจำเป็นหรืออยากทดลองระหว่างพ่อห่างแม่  ขาดความอบอุ่นใจก็เลยยึดเพื่อนเป็นหลักหรือถูกยึดเพราะความต้องการของเพื่อนร่วมเพศที่มารักใคร่ชอบพออย่างจริงจังถึงขนาดจะเลิกหรือมีเพื่อนชายก็ตามไปแสดงความหึงหวง  บางทีถึงขนาดตบตีเป็นข่าวดังตามหอพักหญิงอยู่บ่อย ๆ และเพราะอาจกลัวถูกทุบตี กลัวอายผู้คน กลัวพ่อแม่จะรู้ก็เลยปกปิดยอมทนอยู่ต่อไปอย่างขมขื่นใจ

 

                ในกรณีนี้ สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการจะถอนตัวก็ไม่ต้องกลัวหรืออายนะคะ แสดงว่าเราปกติ  สังคมก็ยอมรับและพร้อมจะให้ความเห็นใจให้ความเข้าใจ  ไม่ต้องกังวลที่จะเล่าความจริงให้พ่อแม่ญาติพี่ น้องฟัง เขาจะได้ช่วยกันปกป้องเราได้  หรือไม่ก็ต้องปรึกษาครูอาจารย์ที่ใกล้ชิดจะได้ช่วยกันคิดแก้ไข  ไม่มีประโยชน์จะต้องทนทรมานอยู่ในสภาพเช่นนั้น     นอกเสียจากแน่ใจว่าเป็นความสัมพันธ์ที่สร้างความสุขใจให้กับเราอย่างแท้จริง  ปัจจุบันมีมากที่เพศหญิงกับเพศหญิงตกลงปลงใจอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข  และเพสชายกับเพศชายก็ไม่ใช่เรื่องแปลกต่อไป ตราบเท่าที่ทั้งสองฝ่ายสมัครใจพอใจและให้ความสุขแก่กันได้

 

                ที่นำเรื่องนี้มาเสนอก็เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้มีความระแวดระวังในความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมเพศกรณีที่เราปกติธรรมดาก็อย่าปล่อยให้ความไม่รู้นำไปสู่ปัญหาที่สร้างความลำบากใจมาให้เราทีหลัง   และเมื่อสังเกตเห็นเพื่อนซึ่งมีลักษณะอาการหรือพฤติกรรมต่างไปจากเรา  ก็ไม่ควรล้อเลียนหรือแกล้งเขาให้เสียน้ำใจ 

 

อย่างกรณีเด็กหนุ่มที่จิตใจโน้มเอียงเป็นสตรี  และอาจจะเลือกวิชาหัตถกรรมที่ไม่หนักมาก  แต่ถึงคราวเรียน  รด.  เด็กชายทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งที่ไม่ชอบและร่างกายไม่อำนวย  คือ  บอบบางแบบสตรี  ก็เลยกลายเป็นที่ล้อเลียนรังแกแกล้งทำให้เขาได้อาย เสียน้ำใจ สิ่งเหล่านี้ไม่ควรกระทำเด็ดขาด  ต้องเข้าใจว่า เท่าที่เขาต้องเผชิญกับสภาพผิดธรรมชาติ เช่นนั้น ก็นับว่าหนักหนามากพออยู่แล้ว  อย่าทำให้เขาทุกข์ใจมากไปกว่านั้นเลย  ต้องคิดว่า ถ้าเราช่วยเขาไม่ได้  ก็อย่าได้ทำร้ายจิตใจเขาเลยนะคะ

 

                สำหรบเพื่อนหญิงคนใดที่เกิดมาชอบเราเป็นพิเศษ  อาจจะแสดงอาการที่ผิดธรรมดาเป็นสัญญาณ เช่น  ชอบกอดจูบเราเหมือนอย่างในภาพยนตร์  หรือเพื่อนรุ่นน้องให้ความเมตตาปรานีกับเราเป็นพิเศษขนาดหางกันไม่ได้   หรือแสดงความโกรธขึ้งอิจฉาริษยาเวลามีเพื่อนคนอื่นมาชอบ   ถ้ารู้สึกว่าความสัมพันธ์ผิดความเป็นเพื่อนธรรมดา  ต้องรีบมองหาสาเหตุ หรือการพูดจา ถามไถ่โดยตรงจะช่วยให้ต่างฝ่ายต่างได้คิดในพฤติกรรมของตนว่า ผิดจากคนที่เป็นเพื่อนกันธรรมดา  เพราะเพื่อนเพศเดียวกันจะสนิทสนมกันขนาดไหนคงไม่มีใครทำถึงขนาดกอดจูบหรือแสดงอาการหึงหวงกันได้

 

                ความรักระหว่างเพื่อนเป็นความรักที่มีช่องว่างให้เราเติบโตเป็นตัวของตัวเอง  มีความเป็นอิสระสามารถจะเป็นหรือทำอย่างที่เขาต้องการได้  จริงอยู่ที่เราอาจจะชอบและเลือกเพื่อนที่มีนิสัยใจคอหรือชอบอะไรคล้าย ๆ เรา  แต่ไว้ว่าเราต่างก็เป็นบุคคลหนึ่งซึ่งมีทั้งความคล้ายคลึงและแตกต่างกันอยู่ดี  การสร้างความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนที่ดี  คือการเรียนรู้ที่จะยอมรับในความเหมือนและแตกต่างจากเรา  นั่นคือรักเขาอย่างที่เขาเป็นอยู่ โดยไม่พยายามจะเปลี่ยนแปลงเขา นอกเสียจากอุปนิสัยนั้นเป็นสิ่งชั่วร้ายและอันตราย  เช่น  เพื่อนเป็นเด็กเกเร ชอบเที่ยวเตร่ ดื่มสุราเป็นอาจินต์ ใช้สารเสพย์ติด เราสามารถช่วยเพื่อนได้โดยการฉุดเขาให้พ้นจากอบายมุขเหล่านั้น  และแนะนำเขาไปสู่หนทางที่ดีกว่า หรือในกลุ่มเพื่อนหญิงบางคนชอบพูดจา หยาบคาย สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า  เราเป็นเพื่อนกัน ตักเตือนเขาได้ด้วยความหวังดี แต่ถ้าเขาไม่เชื่อเราก็ห่าง ๆ ไปบ้างแต่ก็ยังมีความหวังดีอยู่ นั่นคือคุณสมบัติการทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี และดีกับทุกคนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

 

 
 
  Counter 203,386
 
 
© 2012 Thaiteenline. All Rights Reserved. หน้าหลัก | ความเป็นมา | กฎหมายเด็กและครอบครัว | วัยรุ่นอยากรู้ | บทความวัยรุ่น | ฮอทไลน์เคลื่อนที่ | ติดต่อเรา